อินเตอร์เน็ต แหล่งเรียนรู้ออนไลน์

แหล่งเรียนรู้อินเทอร์เน็ต
ความหมายของอินเทอร์เน็ต
            อินเทอร์เน็ต (Internet)   มาจากคำว่า   INTERNATIONAL NETWORK  แปลว่าเครือข่ายนานาชาติจัดเป็นอภิมหาเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก   เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากในระบบเครือข่ายขนาดใหญ่เชื่อมโยงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ   ทั่วโลกด้วยสายเคเบิลหรืออุปกรณ์สื่อสารชนิดต่าง ๆ   โดยการค้นหาข้อมูล ความรู้ต่าง ๆ ที่ถูกบันทึกไว้ในเว็บไซต์ต่าง ๆ แต่หากไม่ทราบชื่อเว็บไซต์นั้น ๆ สามารถค้นหาจากเว็บไซต์ค้นหาข้อมูล  หรือที่เรียกว่า  Search engine  เช่นค้นหาจาก  www.google.com    www.sanook.com  เป็นต้น

ที่มาของรูป https://www.gotoknow.org/posts/554535


อินเทอร์เน็ตเกี่ยวข้องกับนักเรียนอย่างไร
ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราแล้ว เราสามารถทราบข่าวสารเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตได้จากหนังสือพิมพ์ วารสาร รายการวิทยุ และจากแหล่งข่าวสารมากมายทั่งทุกมุมโลกทุกวันนี้มีหนังสือเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตให้เราทำความรู้จักและศึกษาเพิ่มเติม หนังสือพิมพ์ต่างๆ   ซึ่งไม่ใช่หนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก็ยังลงบทความเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต   จึงทำให้เราเข้าใจเรื่องราวของอินเทอร์เน็ตและใช้งานจากอินเทอร์เน็ตมากขึ้น อินเทอร์เน็ตเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ เกือบทุกบ้านจะหันมาใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญไม่ต่างจากโทรศัพท์มือถือ เพราะอินเทอร์เน็ตเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารในอีกรูปแบบหนึ่งที่สำคัญมาก ดังนั้น การทำสื่อโฆษณา การขายสินค้า การสร้างรายได้ หรือการทำธุรกิจต่างๆบนอินเทอร์เน็ต จึงเกิดขึ้นมามากมายหลายรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม การใช้งานอินเทอร์เน็ตก็มีประโยชน์มากมายหลายด้าน เช่น ทางด้านการศึกษา ทางด้านการสื่อสาร ทางด้านการเผยแพร่ความรู้ ผลงาน และผลผลิต แต่เนื่องจากสังคมอินเทอร์เน็ต เป็นสังคมที่ไม่สามารถมองเห็นซึ่งกันและกัน จึงมีทั้งคนดี และคนร้าย ดังนั้นการระวังป้องกันภัย ล่วงรู้ถึงภัยที่เคยมามาในอดีตจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก

ภัยทางอินเทอร์เน็ต
สามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ
ลักษณะที่ 1. ภัยที่เกิดกับบุคคล  ภัยที่เกิดกับบุคคลมักเกิดจากการหลอกลวง การกลั่นแกล้ง โดยผลที่ได้รับอาจจะทำให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายเกิดความอาย เสียเงิน จนถึงขั้นเสียชีวิต ดั้งนั้นควรระมัดระวังในการใช้งาน ตัวอย่างภัยที่เกิดกับบุคคล
1. การกลั่นแกล้งโดยผ่านทาง Webboard เช่น  นาย ก. มีความเกลียดชังนาย ข. จึงไปเขียนลงบน Webboard โดยกล่าวร้ายกับนาย ข. จึงทำให้นาย ข. เกิดความอับอาย
 2. การหลอกลวงผ่านทางโฆษณาขายสินค้าด้วยวิธีการประมูล โดยผู้ที่จะเข้าร่วมประมูลต้องลงทะเบียนสมาชิกของเว็บไซต์ หลังจากนั้นผู้ซื้อจะต้องเสนอราคาซื้อแข่งขันกับผู้ซื้อรายอื่น เมื่อเสร็จสิ้นการประมูลถือว่ามีการทำสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ประมูลและผู้เสนอขาย ในรายงานพบว่าเป็นการหลอกลวงมีหลายรูปแบบ เช่น ผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าเพราะไม่มีสินค้าอยู่จริง การปั่นราคาสินค้าสูงกว่าปกติ
3.การชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิต มีทั้งฝ่ายผู้ซื้อหลอกลวงผู้ขาย และผู้ขายหลอกลวงผู้ซื้อ เช่น ผู้ซื้อสั่งซื้อสินค้าเมื่อมีการตัดบัตรเครดิต หรือการหลอกขายสินค้าแล้วขอเบอร์บัตรเครดิต และรหัสแล้วนำไปทำบัตรปลอมเพื่อซื้อสินค้าอีกต่อ
4. การล่อลวงไปกระทำมิดีมิร้ายกับผู้หญิง เช่นล่วงละเมิดทางเพศ ดังที่ปรากฏทางหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ ส่วนมากจะมาในรูปแบบของการใช้งานโปรแกรม Chartroom ต่างๆ
5. เด็กที่เข้าเว็บที่มีการเสนอในทางรุนแรงอาจทำให้เด็กมีนิสัยชอบความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ลักษณะที่ 2. ภัยที่เกิดกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ 
 ภัยอินเทอร์เน็ตลักษณะนี้ เป็นภัยที่ส่งผลเสียหรือผลกระทบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ  ตัวอย่างเช่น
     1. การปล่อยโปรแกรม Virus มาทางอินเทอร์เน็ต ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับ Virus จะเกิดอาการใช้งานไม่ปกติ หรือบางอย่างอาจจะลบข้อมูลทั้งหมด
    ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือ โปรแกรมที่มีผู้เขียน เขียนขึ้นมาเพื่อขัดขวางการทำงานของคอมพิวเตอร์ ทำให้เสมือนว่าใช้งานกับคอมพิวเตอร์ไม่ได้ จนกระทั่งทำลายแฟ้มข้อมูล หรือทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติไปจากเดิม ส่วนการติดไวรัสอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้อีกเครื่องหนึ่ง หรืออาจผ่านระบบเครือข่ายหรือระบบสื่อสารข้อมูล โดยเฉพาะทาง Internet นั่นแหละแหล่งรวมไวรัส
    2. ใช้วิธีการเข้าควบคุมโมเด็มของบุคคลอื่น เมื่อมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดไวรัส หลังจากที่เราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วไวรัสกำหนดคำสั่งให้ต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ตใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้จะเป็นการเชื่อมโยงไปยังคู่สายที่อยู่เมืองนอก ดังนั้นการเสียค่าโทรศัพท์จะต้องเสียในอัตราโทรต่างประเทศ
  3. Trojan Horse เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้ทำตัวเหมือนว่าเป็นโปรแกรมทั่วไป  เพื่อหลอกผู้ใช้ให้ทำการเรียกใช้งาน เมื่อถูกเรียกขึ้นมาแล้ว ก็จะเริ่มทำลายตามที่โปรแกรมได้กำหนดไว้ทันที จุดประสงค์ของคนเขียนม้าโทรจัน เพื่อที่จะล้วงความลับของระบบคอมพิวเตอร์บุคคลอื่น ม้าโทรจันนี้อาจจะถือว่าไม่ใช่ไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาโดด ๆ และจะไม่มีการเข้าไปติดในโปรแกรมอื่นเพื่อสำเนาตัวเอง แต่จะใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้เป็นตัวแพร่ระบาดซอฟต์แวร์ที่มี ม้าโทรจันอยู่ในนั้น
การป้องกันภัยที่เกิดกับบุคคล
1. ไม่ควรสนทนา (Chart) กับบุคคลอื่นที่ไม่รู้จัก หรือไว้ใจได้
2. ไม่ควรใส่ชื่อที่อยู่จริงกับเว็บที่ไม่น่าไว้ใจ
3. ระลึกอยู่เสมอว่า บุคคลที่นักเรียนรู้จักทางเว็บอาจจะเป็นบุคคลที่ไม่พึงประสงค์
4. ระวังตัวทุกครั้งที่มีการลงทะเบียนกับเว็บต่างๆ เพราะนักเรียนอาจกำลังตกอยู่ในสายตาของผู้ไม่ประสงค์ดี ที่กำลังจับตามองท่านอยู่  
5. จงคิดไว้เสมอว่า ไม่มีใครยอมเสียผลประโยชน์ ถ้าไม่ได้อะไรตอบแทน
6. ทุกครั้งที่คนมาชวนสร้างรายได้ โดยทำธุระกรรมผ่านทางเว็บจงคิดเสมอว่า รายได้ที่สูงเกินความจริงอาจตกอยู่กลลวงของผู้ประสงค์ร้าย
7. การไปพบปะกับบุคคลที่ติดต่อผ่านทางเว็บไม่ควรไปอยู่ในที่ลับตา ควรมีผู้ปกครองไปด้วย
8. ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้ลูกเข้าเว็บที่ต้องห้าม หรือเว็บที่มีการนำเสนอภาพรุนแรง
9. การตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับลูกควรอยู่ในสายตาของผู้ปกครอง เช่นห้องรับแขก ห้องพักผ่อน 
การป้องกันภัยที่เกิดกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ


     1. ทุกครั้งที่นำซอฟแวร์ที่ไม่ทราบแหล่งที่ผลิต หรือได้รับแจกฟรี ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนนำไปใช้ ว่ามีไวรัสหรือไม่ โดยใช้โปรแกรมประเภท สแกนไว้รัส
    2. ควรตรวจสอบทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
    3. เตรียมแผ่นที่สะอาดไว้สำหรับบูตเครื่องเมื่อคราวจำเป็น
    4. ควรสำรองข้อมูลไว้เพื่อเกิดความเสียหายจะได้มีไฟล์สำรองทุกครั้ง 
    5. พยายามสังเกตุสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำงานที่ช้าลง ขนาดไฟล์ หน้าจอแสดงผลแปลก ๆ ไดรฟ์มีเสียงผิดปกติ
    6. ไม่นำแผ่นดิสก์ไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ถ้ายังไม่ได้ปิดแถบป้องกันการบันทึก (Write Protect) หรือถ้าจำเป็นต้องเปิด ควรมีการ สแกนไว้รัสก่อนใช้งานทุกครั้ง
    7. ควรแยกแผ่นโปรแกรม และแผ่นข้อมูลออกจากกันโดยเด็ดขาด
    8. ไม่อนุญาตให้คนอื่นมาเล่นเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน โดยปราศจากการควบคุมอย่างใกล้ชิด
    9. ควรมีโปรแกรมป้องกันไวรัสไว้ใช้ตรวจสอบและป้องกัน โดยเฉพาะโปรแกรมป้องกันไวรัสรุ่นใหม่ ๆ จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ดีขึ้นมาก
    10. เมื่อมีการติดตั้ง โปรแกรม ป้องกันไวรัสแล้วมิได้จบเพียงแคนั้น ควรจะมีการ Update ไวรัสบ่อยๆ เพราะทุกๆ วันจะมีการสร้างไวรัสใหม่เสมอ
   11. หมั่นติดตามข่าวด้าน Information Security และข่าวไวรัสใหม่ๆ ตลอดจนหมั่น Update Patch ให้กับระบบที่เราใช้งานอยู่เป็นประจำ
    12. หลีกเลี่ยงการเปิดอ่านอี-เมล์และไฟล์ที่แนบมากับอี-เมล์ ถ้าไม่รู้แหล่งที่มาของ อี-เมล์





ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต

1.  เป็นแหล่งเรียนรู้  สามารถค้นหาข้อมูล  ความรู้ต่าง ๆ  จากทั่วโลกได้หลากหลายรูปแบบ  เช่น  ข้อมูลที่มีลักษณะเหมือนหนังสืออ้างอิงจำพวก  พจนานุกรมภาษาต่าง ๆ  สารานุกรม  แผนที่  ข้อมูลที่เป็นบทความจากวารสาร  ข้อมูลที่เป็นผลงานวิจัย ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต้นแหล่ง   จากการค้นเพียงครั้งเดียวจะได้ข้อมูลในเวลาอันรวดเร็ว 
2.  เพื่อใช้ติดต่อสื่อสาร   นักเรียนสามารถส่งข่าวสารถึงเพื่อน   ส่งรายงาน  หรือถามข้อสงสัย   หรือแสดงความคิดเห็นต่ออาจารย์หรือผู้สอนทาง จดหมายอิเล็กทรอนิกส์(e-mail)  ส่วนผู้สอนอาจจะมอบหมายงานแก่นักเรียนทาง จดหมายอิเล็กทรอนิกส์(e-mail) ได้เช่นกัน  สามารถส่งบัตรอวยพรในเทศกาลต่างๆ ได้   เช่น  วันขึ้นปีใหม่ วันเกิด  ไปได้ทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว หน่วยงานหรือองค์กรใด ๆ ที่ต้องการแจ้งข่าวสาร ข้อมูลแก่สมาชิกหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(e-mail) จะสะดวกรวดเร็วและประหยัดมาก
          3.  ทำให้รับข่าวสารล่าสุดได้ทั้งในและต่างประเทศ   ทั้งข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ   ข่าวกีฬา   รายงานอากาศ ราคาหุ้น      
4.  เพื่อให้นักเรียนเห็นความสำคัญ ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้ ตลอดจนเป็นการเปิดโลกทัศน์แก่นักเรียน     มีทักษะในการใช้อินเทอร์เน็ตและนำประโยชน์ไปใช้เพื่อการเรียนได้  นักเรียนได้มีฐานข้อมูลความรู้ทางอินเทอร์เน็ตในเบื้องต้น
          5.  เพื่อความบันเทิง  (Entertainment)   เล่นเกมส์  ดูหนัง  ฟังเพลง

ที่มาของรูป http://www.woshipm.com/it/162502.html 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น